Thursday, April 27, 2006

ใครเอ่ย The Cantona of Coaching.

ด้วยเหตุใดไม่ทราบ หนังสือ World Soccer ฉบับเดือน พฤศจิกายน 2003 (ภาพปก ฮวน เวรอน ในเสื้อเชลซี) ถูกวางบนที่ชั้นที่ผมจัดไว้สำหรับหนังสือการ์ตูน

เมื่อผมหยิบมันขึ้นมาพลิกดูเนื้อหาข้างใน ผมก็อดเพลิดเพลินไปกับ รูปภาพและข่าวคราววงการฟุตบอล ในห้วงเวลานั้นไม่ได้ มันไม่ต่างกับการที่ได้มีโอกาสย้อนกลับไปดูอดีต จากมุมมองปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บทความของ Jim Holden ที่เป็นเสมือนตัวเชื่อมโยงวันเวลาแห่งอดีตกับโลกปัจจุบันได้อย่างบังเอิญที่สุด

บทความดังกล่าวโปรยหัวไว้ว่า Wenger, the Cantona of coaching บทความนี้เขียนในขณะที่รอบแบ่งกลุ่มของ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ในฤดูกาลนั้น แข่งไปได้เพียงสองนัด โดยทีมของอาร์แซน เวงเกอร์ อยู่อันดับบ๊วยของตารางในกลุ่ม บี

ทีมปืนใหญ่แข่งไปสองนัด แพ้อินเตอร์ในบ้านไปด้วยสกอร์น่าเอาปี๊ปคลุมหัว - สามศูนย์ และออกไปเสมอกับ โลโคโมทีฟ มอสโค แบบไร้สกอร์

Jim Holden บอกว่า อาร์เซน เวงเกอร์ สามารถทำให้เกมรุกของอาร์เซน่อลมีสีสัน น่าตื่นตาตื่นใจ และเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จอย่างสูงในพรีเมียร์ชิพ (ซึ่งในซีซั่นนั้นเอง ที่อาร์เซน่อลจบฤดูกาลในฐานะแชมป์ลีก ผู้ไม่พ่ายแพ้ให้แก่ทีมใดเลย) แต่ทว่ากุนซืออย่างเวงเกอร์ กลับไม่เคยประสบความสำเร็จในการทำทีมสู้ศึก UCL เลย เขาทำได้ดีที่สุดเพียง แค่พาทีมเข้าถึงรอบ Quarterfinal เท่านั้นเอง ทั้งๆที่เวงเกอร์นั้น จัดได้ว่าเป็นผู้มีประสบการณ์โชกโชนบนเส้นทางนี้

บทความดังกล่าวได้แสดงตัวเลขที่น่าสนใจประกอบ สถิติ ณ เวลานั้นชี้ว่า เวงเกอร์คุมทีมปืนใหญ่ในถ้วยนี้มาแล้ว 59 เกม อยู่ในอันดับที่หกของบรรดากุนซือที่ผ่านเกม UCL มากที่สุด โดยท่านเซอร์ แห่งโอลด์แทรฟฟอร์ด ครองอันดับหนึ่ง ด้วยจำนวนเกมทั้งหมด 95 เกม

Holden เปรียบเวงเกอร์เหมือนกับคันโตน่า ที่แม้ว่าจะมีส่วนสำคัญต่อความสำเร็จของแมน ยูฯในแผ่นดินอังกฤษ แต่ไม่เคยนำพาทีมให้เข้าชิงถ้วยใหญ่ของยุโรปได้เลย แม้แต่ครั้งเดียว แต่ครั้นเมื่อคันโตน่าเลิกอาชีพค้าแข้งกับแมน ยูฯเพียงฤดูกาลเดียว ทีมกลับสามารถพิชิตแชมป์ยุโรปได้สำเร็จ (พร้อมๆกับการเป็นทริปเปิ้ลแชมป์ในฤดูกาลเดียวกัน)

การยกให้เวงเกอร์เป็นคันโตน่าแห่งการคุมทีม ย่อมหมายความว่า หากอาร์เซน่อลจะได้เป็นแชมป์ UCL แล้วไซร้ จักต้องหาโค้ชใหม่มาคุมทีมแทนเวงเกอร์สถานเดียว

นั่นคือข้อสรุปของ Jim Holden เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2003

เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา อาร์เซน่อลของเวงเกอร์สามารถฝ่าด่าน บียารีล แห่งสเปน เข้าไปชิงถ้วย UCL ที่ฝรั่งเศสในกลางเดือนหน้าได้สำเร็จ และเวงเกอร์กำลังจะทำให้สมญาที่ Jim Holden ตั้งให้เมื่อสามปีก่อนนั้นเป็นโมฆะไปในทันที หาก เธียรี่ อองรีได้เป็นคนแรกในทีมอาร์เซน่อลที่ชู Big Ear กลางสนาม สตาร์ด เดอ ฟรองซ์

แฟนๆปืนใหญ่อย่าเพิ่งไปด่านาย Jim Holden นะครับ ในฐานะที่เอากุนซือมาดละเมียด ไปเปรียบกับ icon ของทีมสุดชังอย่างแมน ยูฯ ซ้ำยังสบประมาทอีกว่า ทีมปืนใหญ่ของเวงเกอร์จะไม่สามารถประสบความสำเร็จในถ้วยใบนี้ได้

เพราะในบทความนี้ Jim Holden วิจารณ์ถึงสาเหตุที่ต้องกล่าวโทษอาร์เซน เวงเกอร์ว่าเป็นต้นตอของความล้มเหลวของทีม Holden ชี้ว่าแทกติคของอาร์เซน่อล ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามสถานการณ์ และตามคู่แข่งในบอลยุโรปได้อย่างเหมาะสม

ซึ่งความสำเร็จในวันนี้ของอาร์เซน่อลนั้น มาจากการแก้ไขในแทกติคที่เคยผิดพลาดมาแต่ครั้งอดีต

อาร์เซน่อลในวันนี้ ไม่ได้มีวันนี้ได้เพราะเกมรุกที่ลืนไหล และลีลาอันแพรวพราวของ อองรีเพียงอย่างเดียว อาร์เซน่อลมีดีกว่าตรงที่ปรับเกมให้เล่นเพื่อหวังผล เล่นเพื่อยันเสมอ เล่นเพื่อหวังปิดเกม ปิดสกอร์คู่ต่อสู้

มีสถิติไม่เสียประตูเลยถึงสิบนัดติดต่อกัน ไม่ใช่ได้มาด้วยโชค (แม้โชคจะมีส่วนบ้างก็ตาม) สถิตินี้แสดงให้เห็นถึงการปรับจูน กลยุทธ์การเล่นในบอลยุโรป ที่มีประสิทธิภาพ

น่าเสียดายที่ความเจนโลกของทีมอาร์เซน่อล จะไม่ส่งผลใดๆต่อโอกาสของทีมชาติอังกฤษในฟุตบอลโลก เพราะทีมอาร์เซน่อลถือสัญชาติอังกฤษ แต่ผู้เล่นในทีม ล้วนแล้วแต่ถือพาสปอร์ตคนต่างด้าวทั้งสิ้น ฝรั่งเศสบ้าง สเปนบ้าง ไอเวอร์โคสต์บ้าง คือถ้าคืนวันที่เตะกับ บียารีล โซล แคมเบล ไม่ลงเตะนะครับ ทั้งทีมจะไม่มีคนอังกฤษเลย

ตรงนี้ที่ทำให้ปืนใหญ่ต่างกับ เชลซี ผีแดง และหงส์ เพราะหากทีมใดในสามทีมนี้เข้าชิง ผู้เล่นสัญชาติอังกฤษจะต้องอยู่ในทีม และมีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์ มีความฮึกเหิมก่อนแข่งบอลโลกในฤดูร้อนนี้อย่างแน่นอน


ู่

3 Comments:

At 3:13 AM , Anonymous Anonymous said...

Cantona of Coaching หรือเปล่าครับ?

 
At 11:07 AM , Anonymous Anonymous said...

จริงครับ
ฤดูกาลที่ผ่านๆมาเน้นบุก
ฤดูกาลนี้เล่นเน้นผลจริงๆ

แต่ก็อย่างว่า ผมว่ามีปัจจัยหลายอย่าง
ตัว เวงเกอร์ เองก็อยากได้แชมป์มาก
และก็เพื่อมัดใจอองรีด้วย

สังเกตุได้จากการอัดกองกลาง 4 คน
กองหน้าคนเดียว ซึ่งเมื่อก่อนไม่เคยทำ

 
At 6:50 AM , Blogger The Corgiman said...

many thanks นะครับ ผมรีบเขี่ยนไปหน่อย เลยสะกดผิดๆถูกๆ

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home