Monday, July 18, 2005

A Mac Guy Reveals

ผมเคยมองคนที่ใช้เครื่อง Mac ด้วยความไม่เข้าใจ....

อยากถามเหมือนกันว่า...ทำไมต้องแหกคอกด้วยอ่ะ

ในเมื่อคนแทบทั้งโลกเค้าใช้เครื่อง PC ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows แล้วทำไมพวก "Mac Guys" เหล่านี้ถึงทำตัวแหวกแนว ใช้ของอะไรที่มันไม่เข้าพวกกับชาวบ้านด้วย

แม้จะรู้สึกหมั่นไส้พวก Mac Guys อยู่บ้าง แต่ในใจผมนั้นกลับ แอบชมชอบรูปร่างของเจ้าเครื่องแม็คยุคแรกๆ อยู่เหมือนกัน.. ด้วยเหตุที่ว่า รูปทรงของมันดูน่ารัก เป็นตู้ๆ กระทัดรัด ตัวเครื่องกับจอติดกันเป็นชิ้นเดียว ไม่เหมือนกับพีซี ที่แยกตัวเครื่องกับจอ ออกจากกัน

แม้ว่าจะได้เคยลองใช้เครื่องแม็คในสมัยนั้น มาบ้างแต่ผมก็ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้ว่า ทำไม..ยังมีคนที่เห็นว่าเครื่อง แม็ค ดีกว่า พีซี อยู่อีก

จนกระทั่ง...ผมได้ไปอ่านหนังสือ เรื่อง Complexity: The Emerging Science at the Edge of Order and Chaos ของ Micheal Waldrop

หนังสือเล่มนี้โฟกัส ชีวิตของ Brian Arthur ผู้บุกรุกพรมแดนวิชาเศรษฐศาสตร์ ด้วยแนวคิดที่ไม่เชื่อว่า โลกเราถูกจำลองได้ด้วยสมการเส้นตรง และกระบวนการผลิตแบบ Constant Returns to Scale

ที่สำคัญ เขาเชื่อว่า กระบวนการทางสังคมและเศรษฐกิจมีวิวัฒนาการที่สลับซับซ้อน และไร้เสถียรภาพ ความแตกต่างที่เกิดขึ้น ณ จุดเริ่มต้น สามารถเปลี่ยนแปลงกระบวนการทั้งหมดที่จะตามมาได้เลย การที่วิวัฒนาการนั้นผูกโยงกับสถานะเมื่อเริ่มแรก มีชื่อเรียกว่า Path Dependence

ตัวอย่างที่ยกให้เห็นถึง Path Dependence ได้แก่ Norm ที่เรายึดถือว่า เข็มนาฬิกาเดินวนจากด้านขวามาซ้าย เพราะการบ่งชี้ว่าเวลาได้ผ่านไปเท่าไหร่แล้วนั้น สามารถแสดงได้ด้วยระบบที่เข็มนาฬิกาเดินวนจากด้านซ้ายมาขวา เช่นกัน หรืออย่างเช่นการขับรถชิดด้านซ้ายของถนน ก็ไม่มีความแตกต่างในด้านการจัดระเบียบไปจาก ระบบที่จัดให้รถยนตร์ขับชิดด้านขวาของถนน

เหตุที่เกิดธรรมเนียมปฏิบัติเช่นนี้เป็นเพราะ ความบังเอิญ เพียงถ่ายเดียว เพราะว่าในเริ่มแรกนั้น เราใช้ระบบแบบนี้กัน เลยทำให้การปฏิบัติในเวลาต่อๆมา กระทำตามแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง

ในสองตัวอย่างข้างต้นนั้น สองระบบที่สามารถวิวัฒนาการขึั้นมาเป็นธรรมเนียมปฏิบััติได้นั้นมี "ประสิทธิภาพ" เท่าเทียมกัน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ระบบใดระบบหนึ่ง จะกลายมาเป็นบรรทัดฐานชั่วกาลนาน ได้

แต่ก็มีหลายกรณีที่ระบบที่ "ด้อยกว่า" กลับกลายมาเป็นบรรทัดฐานแทน อาทิเช่น แป้นพิมพ์ดีดที่เราคุ้นเคยกันในเวลานี้ ที่เรียงตัวหนังสือภาษาอังกฤษเป็นแนวจากซ้ายไปขวาเป็นอักษร "QWERTY" การเรียงเช่นนี้มิได้เป็นเพราะเป็นการจัดเรียงที่ทำให้ผู้พิมพ์ทำงานได้มีประสิทธิภาพสูงที่สุด หรือพิมพ์ได้เร็วมากที่สุด ตรงกันข้าม การเรียงตัวหนังสือเช่นนี้ มีผลทำให้ผู้พิมพ์ พิมพ์ช้าลงกว่าเดิม แต่เมื่อเครื่องพิมพ์ที่เรียงตัวอักษรแบบนี้ใช้กันอย่างแพร่หลายมากแล้ว ผู้ผลิตทั้งหลายจึงไม่ต้องการเปลี่ยนการเรียงแป้นพิมพ์

ตัวอย่างที่สองคือมาตรฐานของระบบเครื่องเล่นวิดีโอเทป เมื่อครั้งที่เครื่องเล่นวิดีโอถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นสินค้าบริโภคสำหรับครัวเรือน ปรากฎว่ามีระบบของเครื่องวิดีโอที่แข่งกันอยู่สองระบบด้วยกัน คือ VHS และระบบ Betamax ในทางเทคนิคแล้ว ระบบ Betamax ดีกว่า แต่การกลับเป็นว่า ระบบ Betamax ต้องสูญพันธุ์ไปก่อน ด้วยเวลาอันรวดเร็ว ทั้งนี้เป็นเพราะเมื่อระบบทั้งสองเริ่มวางขายพร้อมๆกัน ปรากฎว่าฐานลูกค้าของระบบ VHS มีมากกว่า เลยทำให้มีเน็ตเวิร์คของคนใช้กว้างขวางกว่า ผู้ผลิตซอพต์แวร์ต่างพากันหันมาผลิตเพื่อป้อนระบบ VHS กัน และเมื่อผู้ซื้อ เห็นว่าระบบ VHS มีเครือข่ายผู้ใช้ ผู้ให้บริการ และซอฟต์แวร์ที่รองรับมากกว่า จึงต่างหันมาใช้แต่ระบบ VHS กันหมด

ในหนังสือเล่มดังกล่าวได้พูดถึงระบบปฏิบัติการคอมพิวเตอร์ด้วย และยกให้เห็นว่า ระบบพีซี กับระบบแม็ค นั้น ก็ไม่ต่างจากกรณี VHS และ Betamax เท่าใด เพราะระบบแม็ค ดีกว่า พีซี แต่ว่าเนื่องจากเครือข่ายของผู้ใช้พีซี มีมากกว่า จึงทำให้ระบบ แม็ค ตกกระป๋องไป

ตรงนี้เองที่ทำให้ผมเริ่มสนใจเจ้า แม็ค

ตกลงที่เหล่าพวกแหกคอกเนี่ย เค้าใช้ของดีกว่าเรา หรือเนี่ย...

ไม่เคยรู้มาก่อนเลยอ่ะ

โอเคๆ รู้มาบ้างเหมือนกันว่า ไอ้ระบบปฏิบััติการ Windows เนี่ย microsoft มันลอกแบบมาจาก ระบบ OS ของแม็ค เพราะเมื่อก่อนนั้น เครื่องพีซี รันบนระบบ Dos ซึ่งเป็นระบบที่คนไม่รู้คอมฯ ไม่มีปัญญาทำอะไรกับมันได้ (หน้าจอสีเขียวๆ มีเครื่องหมายมากกว่า กระพริบ รอการคีย์คำสั่งเข้าจากผู้ใช้อยู่) ต่างจากระบบ OS ของแม็ค ที่แสดงสิ่งที่อยู่ในเครื่องคอม เป็นรูปภาพ หรือสัญญลักษณ์ที่ช่วยเหลือผู้ใช้ในการทำงาน ซึ่งแม้แต่เด็กๆก็ยังสามารถ "เล่น" กับคอมพิวเตอร์ได้บ้าง

microsoft ขโมยลุค ของระบบ OS ไป อย่าง Recycle bin ใน windows ก้อลอกมาจาก Trash can ที่แม็คมีมานานแล้ว

ผมเลยเริ่มหันมามองเครื่องแม็คด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

จนกระทั่งเมื่อ Apple ได้ออก iMac มาเขย่าวงการในราวปี 99 (มั้ง?) ผมเลยตัดสินใจลองซื้อมาใช้ดู

รูปทรงของ iMac ให้ความรู้สึกของเครื่องแม็ค ที่ผมเคยเห็นสมัยเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน เมื่อผนวก design ที่ล้ำสมัย และสีสันที่บาดตา บอกด้วยภาษาวัยรุ่นยุคนี้ได้เลยว่า ...โดน ครับ

iMac รุ่นที่ผมซื้อนั้น ใช้โปรเซสเซอร์ G3 มีความเร็ว 333 MHz รันบนระบบปฏิบัติการ OS 8 กว่าๆ

คนที่รู้เรื่องแม็ค บอกกับผมว่า รุ่นนี้สวยจริง แต่มันมีข้อเสียคือ มันอัพเกรดตัวฮาร์ดแวร์ ไม่ได้เหมือนเครื่องรุ่นก่อนๆ ..ผมไม่เข้าใจ

ก็เครื่องคอมฯ ทั่วไปมันก็งี้ไม่ใช่หรอ พอมีโปรเซสเซอร์รุ่นใหม่ออกมา รุ่นเก่าก็แทบโยนทิ้งได้เลย เพราะตัวฮาร์ดแวร์มันอัพให้ใช้กับเทคโนโลยีใหม่ไม่ได้

แต่นั่นมันพีซีครับ...ผู้รู้ท่านนั้นบอก

ไอ้เครื่องแม็ค รุ่นตู้สี่เหลี่ยมเมื่อหลายสิบปีก่อนน่ะ เค้ายังใช้กันได้ถึงทุกวันนี้นะน้อง

เพียงแค่เปิดข้างในออกมา ถอดตัวโปรเซสเซอร์เก่าออก ใส่ตัวใหม่เข้าไป..

แค่นี้ก็อัพเกรดเป็นโปรเซสเซอร์ใหม่ได้แล้ว

ผมเป็นงงกับคำตอบนี้เลยครับ...

มิน่า คนใช้แม็ค ถึงใช้เครื่องๆนึงกันนานๆ เป็นเพราะงี้นี่เอง มันอัพเกรดกันได้

แต่ไม่เป็นไร เครื่อง iMac ของผมอัพเกรดไม่ได้ ผมก็ไม่รังเกียจมัน

พอใช้ไปก็เริ่มเห็นความดีมันอีกสองข้อ ข้อแรกคือ ไม่ต้องกลัวไวรัส เพราะ ไวรัสเล่นงานเฉพาะพีซี

(เอ่อ... แต่ว่า คุณ Kickoman ต้องระวังนะครับ ผมไม่ได้หมายความว่าถ้าคุณซื้อแม็คมาใช้แล้ว คุณจะปลอดภัยจากไวรัสด้วย

ผมหมายถึงตัวเครื่องนะครับ ที่ปลอดภัย ผู้ใช้ยังคงสุ่มเสี่ยงต่อเชื้อ HIV อยู่ แม้จะมีแม็คในครอบครองก็ตาม)

ข้อดีประการที่สองคือ เวลาเราลงโปรแกรมในเครื่องพีซีไปแล้ว เมื่อมาทำการถอดออกภายหลัง ผมมักจะปวดหัวกับตัว popup ที่ชอบโผล่มาฟ้องว่า หาไฟล์สกุล dll ไม่เจอ พวกไฟล์ตระกูลนี้คือไฟล์อะไร อยู่ที่ไหน ทำหน้าที่อะไร ผมไม่ทราบจริงๆ มันก็ขยันถามอยู่นั่นแหละ ผมก็ต้องคอยปิดหน้าต่างหนีมัน

เรื่องแบบนี้มันน่ารำคาญ เพราะการทำงานภายในของเครื่องมันซับซ้อนเกินกว่าที่ผมจะเข้าใจ และคงไม่สามารถเรียนรู้ได้ในเวลาอันสั้น ผมอยากแค่ใช้เครื่องทำงานอย่างมีความสุข ไม่ต้องมาเจอเรื่องจุกจิกแบบนี้

ตั้งแต่ใช้แม็ค ผมไม่ต้องกังวลกับปัญหาพวกนี้อีกเลย

ตลอดเวลาที่ผมใช้เครื่อง iMac นี้ จะเจออยู่สองปัญหาก็คือ หนึ่งรับส่งไฟล์กับผู้ใช้พีซี ไม่ได้ กับสองคือ การใช้ภาษาไทยกับเครื่องแม็ค ในสมัยนั้น สองระบบนี้ไม่ยอมสื่อสารกันครับ การส่งไฟล์งานที่ทำในแม็คให้กับคนใช้พีซี ทำได้เพียงการsave ไฟล์พวกนั้นในรูป rich text format เท่านั้น ซึ่งเวลาผู้ใช้พีซีเอาไฟล์ไปเปิดดู จะเห็นงานไม่ตรงกับที่เราส่งไป ส่วนภาษาไทยนั้น เป็นไม้เบื่อไม้เมากับเครื่องแม็ค คงเป็นเพราะการพัฒนาซอฟต์แวร์มารองรับภาษาไทยยังทำไม่ได้ดีในยุคนั้น ทำให้การตัดคำเมื่อสิ้นบรรทัด ทำไม่ได้ดีเท่าที่ควร เป็นผลให้ข้อความในแต่ละบรรทัด โย้ไปเย้มา ดูไม่เป็นระเบียบ

แต่ทุกวันนี้ปัญหาทั้งสองแทบไม่มีแล้ว เพราะสองระบบสื่อสารกันได้เกือบสมบูรณ์ และภาษาไทยบนแม็คในทุกวันนี้ ก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ไม่ว่าจะด้วยการใช้ hard lock (ในกรณีที่ยังคงใช้ MS Word ทำงาน)หรือ อาจเลี่ยงใช้โปรแกรม Pages ของแอปเปิลเองแทน นอกจากนี้ แม็คในวันนี้ก็มี font ภาษาไทยที่หลากหลายสวยงามกว่าพีซี ให้เลือกใช้มากมายด้วยซ้ำ

ตอนนี้ แม็คเริ่มยึดครองตลาดได้มากขึ้น เหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนใช้ Mac กันแพร่หลายมากขึ้นคือ เจ้าเครื่อง MP3 ที่ชื่อ iPod นี่เอง Apple กลายเป็นผู้นำในตลาดเครื่องเล่น MP3 นี้ และส่งผลให้ผู้ใช้เครื่อง MP3 หันมาใช้คอมฯ ของ Apple ตามไปด้วย

ในโลกดิจิตอล ที่ MP3 กับ คอมพิวเตอร์ เป็นสินค้าที่ใช้ร่วมกัน (Complement) ความนิยมในเครื่อง MP3 ของ Apple เลยช่วยขยายฐานลูกค้าให้กับสินค้าที่ใช้ร่วมอย่าง Mac ด้วย ตรงนี้ที่ต้องชมวิสัยทัศน์ทางการตลาดของ Steve Job CEO ของ Apple ที่เข็นเอา Mac Mini ออกมาเพื่อรองรับลูกค้าใหม่ๆของ Apple

ใครที่อยากลองเล่นเครื่อง Mac ลองซื้อมาใช้สิครับ Mac Mini เป็นเครื่องคอมที่เล็กที่สุด ขนาดประมาณพิซซ่าแบบ personal pan ด้านหน้าเป็นช่องใส่แผ่น ด้านหลังเต็มไปด้วยช่องเสียบสายสารพัด ที่ผมแนะนำเครื่องนี้ก็เพราะ เราต่างมีคอมฯในครอบครองอยู่แล้ว ทีนี้เวลาเราซ์์ื้อรุ่นใหม่มาใช้ เราไม่ได้ซื้อแค่ตัวเครื่องใหม่ เราต้องซื้อทั้งจอ ทั้งคีย์บอร์ดใหม่ด้วย ทั้งๆที่ของเดิมที่เรามีอยู่ยังคงใช้ได้อยู่ ไม่ตกรุ่น

ถ้าเราซื้อ Mac Mini มาใช้ เราก็ไม่ต้องทิ้ง จอ เก่า หรือ คีย์บอร์ดเก่า ขอแค่ว่า คีย์บอร์ดที่เรามีนั้นมีสายที่เสียบเข้า USB port ได้ก็พอ
เราจ่ายเงินแค่ ไม่ถึงสามหมื่น ก็ได้คอมฯ ใหม่ คุณภาพชั้นเลิศมาใช้แล้ว แถมยังเบาและเล็กที่สุดในโลกด้วย

จะลองมาเป็น Mac Guy อย่างผม กับ Kickoman บ้างมั้ยครับ

5 Comments:

At 9:12 AM , Blogger kickoman said...

ผมต้องขอเป็น MacGuy(ver) กะเขาด้วยคนครับ

จริงๆแล้วสนใจอยากได้ Mac มานานแล้วครับ แต่ติดที่ขาดงบ และประกอบกับช่วงที่เรียนอยู่นั้น หวั่นๆอยู่ ไม่กล้าเปลี่ยนแปลงอะไรมาก เดี๋ยวเจ้างานที่สะสมมาหายไปจะกลายเป็นเรื่องใหญ่

มาช่วงหลัง บังเอิญว่าเจ้าคอมเครื่องเก่าถึงอายุขัย เลยมีโอกาสสอย Mac มาเชยชม

ใช้มาได้อาทิตย์นึงแล้วไม่ผิดหวังเลยครับ ติดอยู่นิดนึงตรงที่เครื่องมันขาวไปหน่อยครับ เวลากินลูกชิ้นปิ้งกลัวน้ำจิ้มจะหกใส่ เดี๋ยวจะเช็ดไม่ออก

ใช้ mac ไปก็คอยสงสัยอยู่ว่า ทำไมอะไร อะไร มันถึงสวยกว่า pc ไปหมด ขนาด office บน mac ยังสวยกว่าบน pc เลยครับ

ที่ชอบที่สุดก็ dashboard ใน OS X อันใหม่ครับ เด็ดจริงๆ

สำหรับคนที่จะซื้อเครื่องไม่ต้องกลัวไม่มีโปรแกรมใช้นะครับ โปรแกรมดีๆ มีให้เลือกเพียบ ทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย (ตัวใครตัวมันนะครับ)

ถ้าใครตัดสินใจซื้อ mac ใหม่ ตามคำโฆษณาของผมและคุณ corgiman ช่วยกรุณาเมล์มาบอกด้วยนะครับ จะได้ไปเอาขอรับค่านายหน้าจากทาง apple =)

 
At 6:47 PM , Blogger kickoman said...

ผมเพิ่งไปถอย memory มาอีก 1gb ครับ กะให้วิ่งเป็นม้าเลย

วันก่อนเปิดดูพวก widget ทั้งหลาย เจอตารางการ์ตูนไทยที่วางแผงแต่ละวันด้วย ดีว่าเลิกบ้าการ์ตูนไปแล้ว (เพราะไม่รู้จะซื้อที่ไหน) ถ้ามี mac ตอนเด็กๆนี่รักยิ่งกว่านี้อีก...

 
At 10:28 PM , Blogger The Corgiman said...

เหรอครับ มีwidget แบบนั้นด้วยเหรอ

จริงๆ อยากเขียนเล่าเรื่อง โปรแกรมที่รันบนแม็ค มากกว่านี้อีก

แต่หมดแรงซะก่อน อิอิ

favorite widget ของผมตอนนี้มีสองอัน อันแรก widget Yoda อันที่สอง widget Sudoku

ลองไปโหลดมาลงเครื่องสิครับ

 
At 9:56 AM , Blogger kickoman said...

ต้องนี่เลยครับ Thai Comics Today

ผมมี sudoku, rubik, พยากรณ์อากาศ แล้วก็ wikipedia อยู่บน dashboard ครับ มีราคาน้ำมันกรุงเทพด้วยนะครับ

เขียนเรื่องโปรแกรมเลยครับ มือใหม่อย่างผมอยากอ่านครับ

ไว้ว่างๆถ้ามีคนอยากอ่าน ผมอาจจะเขียนขั้นตอนการทำให้โปรแกรมยอดนิยมเล่นภาษาไทยได้ครับ เพราะหลายโปรแกรมมันค่อนข้าง tricky ครับ เช่น firefox, iTunes, iPod หาตั้งนานกว่าจะเจอหมด....

อ้อ เพิ่งได้แรมวันนี้เองครับ วิ่งกันเป็นม้าเลย

 
At 10:37 PM , Blogger ayman gaber said...

شركة كشف تسربات المياه بالقصيم
شركة كشف تسربات المياه بسيهات و عنك
شركة كشف تسربات المياه بالظهران

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home