ชัยชนะของพลังมวลชน...สีแดง
ผมเคยเขียนไว้ในBlogนี้ว่า การได้แชมป์ที่รีบ็อค สเตเดี้ยมของสิงห์บลู จะสร้างความฮึกเหิมให้กับนักเตะของมูรินโญ่ยิ่งนัก ชวนให้สยองว่าแอนฟิลด์ในคืนวันอังคาร จะกลายเป็นสถานบันเทิงแหล่งต่อมาของผองนักเตะและเหล่ากองเชียร์เชลซีรสชาติอันโอชะของความสำเร็จจากการครองแชมป์ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี กำลังจะได้รับการเติมความหอมหวานด้วยการผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ลีก ..เพียงแค่ทีมเชลซีเดินออกจากสนามแอนฟิลด์โดยไม่ปราชัย
การพินิจพิเคราะห์ตามหลักฐานและหลักเหตุผล ชวนให้สรุปว่า ..เชลซีจะไม่ปราชัยต่อหงส์ในการพบกันเป็นครั้งที่ห้าในฤดูกาลนี้ ..ยิ่งเมื่อหวนนึกถึงคำกล่าวในวงการฟุตบอลที่ว่า .. "ตารางอันดับทีมในลีกไม่เคยโกหก" ด้วยแล้ว.. ยิ่งชวนหดหู่ ..จากตารางคะแนนเมื่อการแข่งขันในคืนวันเสาร์สิ้นสุดลง ลิเวอร์พูลตามหลังเชลซีถึง 33 คะแนน
มันเป็นช่องว่างที่ห่างกันจนเกินไป..สำหรับคู่ตัดเชือกแชมเปี้ยนส์ลีก
แต่ทว่า ราฟาเอล เบนิเตซก็ยังมั่นใจว่าจะพาทีมเข้าชิงได้ ...เขาให้สัมภาษณ์ตั้งแต่เมื่อจบการแข่งขันเลกแรกเมื่อสัปดาห์ก่อนแล้วว่า หงส์แดงจะได้เปรียบจากการได้กลับไปเล่นในบ้าน ...เพราะเหล่ากองเชียร์เดอะค็อปจะเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญช่วยให้ทีมผ่านเชลซีเข้าไปชิงได้
มูรินโญ่ไม่ได้ใส่ใจกับปัจจัยบนอัฒจันทร์ เพราะเขาบอกว่า "The fan can't play" ..เกมการแข่งขันมันตัดสินกัน โดยผู้เล่นเพียงยี่สิบสองคนที่อยู่ในสนาม พวกกองเชียร์ไม่เกี่ยว
เมื่อกุนซือระดับมูรินโญ่ไม่ให้เครดิตกับพลังมวลชนที่ฝั่งค็อปส์เอ็นด์เช่นนี้ เบนิเตซจะหวังพึ่งความได้เปรียบในฐานะเจ้าบ้านได้แค่ไหนกัน..
ความหดหู่และสิ้นหวังกับโอกาสเข้าชิงที่มีในใจ กลับหายไปสิ้น เมื่อภาพบรรยากาศในสนามแอนฟิลด์ได้ถูกถ่ายทอดผ่านจอทีวีให้เราได้ชมกัน
จริงอย่างที่เขาว่า ..บรรยากาศในราตรีแห่งเกมยุโรปช่างมีมนต์ขลังอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
ทีมมากประสบการณ์อย่างยูเวนตุสยังถูกสะกดด้วยเสียงเชียร์ของเหล่าเดอะค็อปเลย
นับประสาอะไรกับเหล่านักเตะที่เพิ่งลิ้มรสกับความสำเร็จระดับเมเจอร์ โทรฟี่ครั้งแรกในรอบ50ปีอย่างเชลซี..
และที่อยู่เหนือความคาดหมายใดๆคือ ..บรรยากาศและเสียงเชียร์ส่งผลต่อการตัดสินใจของไลน์แมนชาวสโลวีเนียด้วย!
ลูกยิงของการ์เซียในนาทีที่ 4 ของการแข่งขัน ถูกตัดสินให้เป็นประตู แม้ว่าจะถูกกองหลังเชลซีไปแซะออกมาจากประตูได้ก็ตาม
ตามกฎแล้วนั้น ลูกบอลต้องข้ามเส้นประตูเข้าไปเต็มใบ แต่ดูจากภาพช้าหลายๆครั้ง (แม้ว่าจะไม่เห็นอย่างชัดเจนก็ตาม) ผมเชื่อว่าลูกนั้นไม่ได้ข้ามเส้นไปเต็มใบอย่างแน่นอน (ยิ่งไปกว่านั้น ข่าวในวันต่อมา ็ี้มีภาพที่สร้างจากคอมพิวเตอร์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าลูกยิงนั้นยังไม่ได้ข้ามเส้นไปด้วยซ้ำ!!)
การ์เซียเล่นบทกลมกลืนได้สนิทมาก เมื่อเห็นบอลถูกสกัดออกมา เขาวิ่งกางแขน หันหลังให้กรรมการและไลน์แมน แล้วมุ่งหน้าไปเฮกับพวกกองเชียร์ ที่ข้างสนามทันที
ผมหวนนึกถึงลูก Hand of God ของมาราโดน่าในฟุตบอลโลก 1986 ที่เสือเตี้ยใช้หมัดชกบอลขณะโดดแย่งลูกกลางอากาศกับปีเตอร์ ชิลตั้นนายทวารทีมชาติอังกฤษ ทันทีที่ลูกเข้าไปกองในตาข่าย มาราโดน่าวิ่งชูมือไปที่ข้างสนามทันที ทำเสมือนว่าลูกที่เกิดขึ้นนั้นมิได้มีอะไรตุกติก
สิ่งที่คล้ายกันอีกประการคือ กรรมการในเกมนั้นกับไลน์แมนในนัดนี้ต่างมิใช่ผู้ตัดสินเกมในระดับแนวหน้าด้วยกันทั้งคู่ ถ้าผมจำไม่ผิดกรรมการในนัด Hand of God นั้นมาจากตูนิเซีย ในขณะที่ไลน์แมนในนัดตัดเชือกนี้มาจากสโลวีเนีย กรรมการหรือไลน์แมนระดับนี้อาจหวั่นไหวไปตามบรรยากาศและเสียงเชียร์ได้ง่าย
ลูกยิงของการ์เซียไม่เพียงแต่เป็นประตูตัดสินที่ช่วยให้หงส์ผ่านเชลซีเข้าไปชิง ..
..แต่ยังเป็นลูกยิงที่หยุดสถิติ"ไม่แพ้" ในรอบน็อคเอ้าท์ของมูรินโญ่ไว้แค่นี้อีกด้วย..
..และเป็นลูกยิงที่ช่วยให้หงส์ชนะเชลซีได้เป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้..
..ทั้งๆที่ลูกยิงนั้นยังไม่ได้ข้ามเส้นประตูเข้าไปแม้แต่น้อยเลยด้วย !!!
แต่จะว่าไปแล้ว เชลซีในนัดนี้มิได้มีความคม และเฉียบขาดในการเข้าทำดังเช่นในรอบที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าเกือบเก้าสิบนาที เจอร์ซี่ ดูเด็คไม่ได้แสดงฝีมือเซฟลูกยิงจากฝั่งเชลซีเลยแม้แต่น้อย จะมีใกล้เคียงบ้างก็คือลูกฟรีคิกของแลมพาร์ด ในช่วงท้ายครึ่งหลัง
ผู้วิจารณ์เกมทาง ESPN เดาใจมูรินโญ่ว่่าจะต้องส่งผู้เล่นในแนวกว้างลงมาป่วนแนวรับหงส์ตั้งแต่ต้นครึ่งหลังอย่างเป็นแน่ เพราะในครึ่งแรกนั้นหงส์แพ็คเกมตรงกลางไว้อย่างแน่นหนามากจนไม่มีรูให้เชลซีเจาะ ผู้เล่นอย่างร็อบเบน หรือดัฟฟ์ จึงเป็นทางแก้ปัญหาที่สมเหตุสมผล ้
แต่มูรินโญ่กลับไม่ทำเช่นนั้น เขากลับเลือกใช้ผู้เล่นชุดเดิมต่อไปในครึ่งหลัง จนเวลาล่วงเลยมาเกือบถึงนาทีที่เจ็ดสิบ อาร์เยน ร็อบเบนถึงได้ถูกส่งลงมา
คุณนิติรัฐ เป็นพยานให้ผมได้ ...ช่วงเวลาที่ร็อบเบนอยู่ในสนามถือได้ว่าเป็นห้วงเวลาแห่งความทุกข์ทรมานอย่างสูงสุดสำหรับแฟนหงส์ เพราะเกมทางริมเส้นของเชลซีเริ่มอันตรายมากขึ้นทุกขณะ
จากที่ไม่มีโอกาสส่องยิงเลย..เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นมีโอกาสใกล้เคียงขึ้นๆ
..เวลาแต่ละวินาทีเดินไปอย่างช้าๆ..ยิ่งช่วงห้านาทีสุดท้ายก่อนถึงกำหนดเก้าสิบนาทีของเกมปกติด้วยแล้ว..อึดอัดใจเป็นที่สุด
ความรู้สึกหวาดกลัวว่าหงส์จะเสียประตูในช่วงนาทีท้ายเกาะกุมจิตใจผมอยู่ เพราะมูรินโญ่เคยฝากรอยแค้นกับปีศาจแดงในฤดูกาลที่แล้ว เมื่อบุกมายันเสมอด้วยการยิงตีเสมอในช่วงท้ายเกม..
กงล้อประวัติศาสตร์อาจหมุนวนกลับมาอีกครั้งเมื่อไหร่ก็ได้..ขณะเดียวกันนั้นเอง ผมก็นึกถึงคำพูดของสหายรุ่นน้องผู้ละทิ้งตรรกะและเหตุผลไปในทันที เมื่อถึงคราวต้องสวมหมวกสาวกผีแดง ..
เขาได้กล่าวไว้อย่างหงุดหงิดหลังเกมนั้นว่า ..ผีแดงถูกโกง ยิงประตูอะเวย์โกล์ท้ายเกมอย่างนี้ มันโกงกันชัดๆ เล่นยิงแบบไม่มีเวลาให้แก้ตัวได้อย่างนี้ ..โกงๆๆๆๆ
..เป็นครั้งแรกที่ผมเข้าใจเขาผู้นั้น ..ว่าไปแล้วเขาก็ไม่ได้ไร้เหตุผลไปเสียหมด เมื่อถึงคราวเชียร์ทีมรัก..
การทดเวลาพิเศษออกไปอีกถึง 6 นาทียิ่งทำให้อาการเครียดกำเริบรุนแรงขึ้น แค่ช่วงหกนาทีสุดท้ายนี้ ผมเดินไปมาระหว่างทีวีกับตู้เย็นตั้งหลายรอบ ทั้งเติมน้ำดื่มและเดินหนีจากเหตุการณ์ที่ชวนสยองที่สุดในเกม ใช่ครับ ลูกยิงระยะหวังผลของกุ็ดยอนเซ่น มันพุ่งแหวกอากาศผ่านแข้งกองหลังหงส์และกองหน้าเชลซีออกไปได้อย่างปาฏิหารย์...หวาดเสียวชิบหายเลยครับ
ความทรมานทั้งหลายทั้งปวงสิ้นสุดลงทันทีเมื่อกรรมการเป่านกหวีดยาวยุติการแข่งขัน ..ตอนนั้น..ผมอยู่บนสวรรค์ชั้นเจ็ดแล้ว
หงส์แดงกลับสู่เวทีชิงชัยถ้วยใหญ่สุดของยุโรปอีกครั้ง ถ้วยที่เคยเรียกขานกันครั้งหนึ่งว่า "ยูโรเปี้ยนคัพ"
ในความรู้สึกของแฟนหงส์ทุกคน โดยเฉพาะพวกรุ่นอายุสามสิบห้าอัพ ถ้วยยูโรเปี้ยนคัพนี้คือถ้วยของหงส์แดงนะครับ ..แม้ว่ามาดริดจะได้ครองแชมป์ถ้วยนี้มากกว่าใครก็ตาม แต่พวกเรารู้สึกเสมอ..ว่านี่คือถ้วย..ของเรา
รอย อีแวนส์เคยให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกเจ็บปวดทุกครั้งที่เห็นทีมอื่นชูถ้วยยูโรเปี้ยนคัพ(โดยเฉพาะเมื่อคราวผีแดงคว้าถ้วยนี้ด้วยการ "โกง" บาเยิร์น) เพราะมันไม่ต่างกับของรักของหวงของเราโดนผู้อื่นเชยชม ถ้าหงส์แดงไม่โดนแบนจากเหตุการณ์ที่สนามเฮย์เซลในปี 1985 แล้วละก็ ทีมจากอิตาลี หรือสเปนคงไม่มีโอกาสสัมผัสถ้วยนี้ได้บ่อยนักหรอก
ตอนนี้..ผมไม่แคร์แล้วว่าจะได้ที่สี่หรือไม่ ..หรือว่า. ยูฟ่าจะยินยอมให้หงส์ไปเตะแชมเปี้ยนส์์ลีกอีกครั้งในฐานะแชมป์เก่าหรือเปล่า วินาทีนี้..ต้องการเพียงอย่างเดียวครับ...
อยากเห็นหงส์เป็นแชมป์ในคืนวันที่ 25 นี้จริงๆ คืนนั้นแฟนหงส์ทั่วโลกคงรวมพลังส่งแรงใจให้กับนักเตะกันอีกครั้ง
ที่พิเศษกว่านั้นก็คือ..จะมีแรงเชียร์จากแฟนผีสำนักหลังเขามาร่วมสร้างพลังมวลชนสีแดงด้วยอีกราย
Come on you, Reds!!!
8 Comments:
ผมเอาใจช่วยให้ปีนี้ นกกระเด้าลมได้เป็นแชมป์กับเขาบ้าง
เพราะที่มิลานบ้านผม ช่วงนี้หาที่วางถ้วยไม่ค่อยได้ครับ
ถ้าcorgimanไม่อยากเสียตังค์เปิดเมมบอกผมได้นะครับ
ผมจะบอกพลพรรคแดงดำ ให้เค้นฟอร์มปิศาจออกมาให้ในรอบชิง...555
เริ่มสัมผัสได้ถึงพลังแห่งความเชื่อมั่นของสาวกหงส์ทัวโลก
ว่าแต่ที่ลั่นวาจาไว้นะ รู้เปล่าครับว่าหลายตังนะ
ในฐานะแฟนนกกระเต้าลม เช่นกัน ช่วงนี้ผมซื้อสตาร์ซอคเกอร์มาอ่านอย่างไม่ค่อยเสียดายตังค์ เพราะช่วงหลังๆ ไม่กล้าแม้จะหยิบ อ่านพาดหัวทีไรแล้วใจมันแป๊ว นัดไหนเล่นชนะ ผมซื้อเก็บไว้เป็นที่ระลึกเลย ว่าจะเม้มไว้เป็นเอกสารทางประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะนัดกับอาร์เซนอล (คืนนู้น และหวังว่าจะเป็นคืนพรุ่งนี้ด้วย แหะๆๆ) โอลิมเปียกอส และเชลซี
ช่วงหลังๆพอผมอ่านซอคเกอร์ หรือ ข่าวฟุตบอลตามเว็บไซต์กีฬาแล้ว มันไม่ค่อยอิ่ม ต้องตามมาอ่านบล็อกของอาจารย์ต่อ
อย่างที่ผมเคยคุยกับเพื่อนผมไว้ว่า งานเขียนอาจารย์วิจารณ์ฟุตบอล มันเหมือนวรรณกรรม ผมก็ดูแมตซ์ที่อาจารย์ดูเหมือนกัน
แต่ไม่ยักกะเห็น ไม่ยักกะสัมผัสได้เหมือนอาจารย์
เลยต้องตามมาอ่านนี่แหล่ะครับ
เติมเต็มเกมส์ หลังจบการแข่งขัน
ขอคาราวะด้วยใจจริงครับ
ขอบคุณครับ คุณratioscripta
เราก็คนหัวอกเดียวกัน ช่วงนี้เริ่มใจคอไม่ค่อยดีแล้ว ท็อฟฟี่ดันเก็บสามแต้มได้
คืนพรุ่งนี้ถ้าแพ้ก็หมดหวังอันดับสี่
ถ้าชนะก็ต้องลุ้นต่อไปอีก
เกิดวืดที่สี่ ก็ต้องไปลุ้นนัดชิงแชมเปี้ยนส์ลีกต่ออีกนัด โอยยย มีแต่ลุ้นกับลุ้น..
แฟนหงส์นี่มันมีกรรมจริงๆนะครับ ทรมานคนแก่อย่างผมจริงๆเลย
เข้าใจความรู้สึกเลยครับอาจารย์
ผมเชียร์มาตั้งแต่เด็ก แต่มาดูจริงๆจังๆ ก็ช่วงสิบปีให้หลังนี่เอง ช่วงที่มันเรี่ยพื้นติดดินเนี่ยแหล่ะครับ
รู้สึกเหมือนผมหรือเปล่าครับ
เชียร์หงส์แดง อารมณ์เหมือนเชียร์ทีมชาติไทย (โดยเฉพาะช่วงที่ผมโตนี่แหล่ะ) เสียวมันทุกนัด
...เอ เมื่อวานดูเอฟเวอร์ตัน เหมือนเห็นทีมชาติไทยคนนึงเล่นอยู่แถวๆกลางสนาม เมียงมองหลายที ไม่ยักกะใช่ สามช้างน้อย ก้าวไกลสู่เอฟเวอร์ตัน (เพราะเห็นกลับมาวิ่งตากแดดหน้าร้อนที่เมืองไทยกันหมดแล้ว โดยเฉพาะลีซอกะบีอีซี)
ละม้ายซิโก้ เสนาเมือง...ดูชื่อด้านหลัง ไม่ยักกะใช่ เพราะมันดันเขียนว่า CAHILL
คนบ้าอะไร หน้าเหมือนกันอย่างกับแกะ
ครึ่งแรก (ขณะนี้) โดนปืนซัดไป 2 เม็ด
ไม่ทราบว่า ไม่ได้อันดับสี่
อาจารย์จะลดดีกรีของเมมที่สัญญากับผองเพื่อนหรือเปล่าครับ...(อยากรู้ด้วยคน)
คุณ ratio จะดูถูก corgiman เกินไปแล้วนะครับ
ตั้งแต่รู้จักกันมาหลายปี คนอย่าง corgiman พูดคำไหน เป็นคำนั้นตลอด ไม่เคยบิดพลิ้ว ไม่เคยคืนคำ
ไม่เคยลดดีกรีของคำสัญญากับผองเพื่อน
ไม่มีวันที่ corgiman จะทำตัวแย่ๆ ไม่น่านับถือขนาดนั้นหรอกครับ
การันตีได้เลย (ฮา)
เวลาคนผิดหวังหนักๆเนี่ย...
มันทำอะไรที่คาดไม่ถึงได้เหมือนกันนะ..น้องปิ่น
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home