Monday, April 04, 2005

Weekend Update

สาม เมษายน
เวลา ห้าทุ่ม

นับได้ว่าเป็นอีกคืนหนึ่งที่แฟนหงส์ต่างอิ่มเอมกับผลการแข่งขันฟุตบอลของทีมรัก

ครับ หงส์แดงเฉือนชนะโบลตั้นด้วยสกอร์ หนึ่งศูนย์ ชัยชนะครั้งนี้มีผลต่อการลุ้นตำแหน่งที่สี่ของตารางพรีเมียร์ชิพอย่างยิ่งยวดไม่แพ้เกมดาร์บี้แมทช์เมื่อสนองอาทิตย์ก่อนเลย

ประการแรก สามแต้มที่ได้เพิ่มมานี้สร้างแรงกดดันให้กับทีมเพื่อนร่วมเมืองที่ยึดครองตำแหน่งทีมอันดับสี่ของตารางอยู่ ช่องห่างของคะแนนภายหลังการแข่งขันในคืนวันเสาร์ได้ลดลงเหลือแค่หนึ่งคะแนนเท่านั้น

ประการที่สอง เป็นการตัดโอกาสลุ้นตำแหน่งที่สี่ ของโบลตั้นไปในตัว ครับ จริงๆ มันได้เกิดขึ้นแล้ว โบลตั้นมีลุ้นอันดับสี่

เป็นเหตุการณ์ที่ผิดปกติพอสมควร ที่ทีมอย่างโบลตั้นพบว่า เมื่อ Daylight Saving Time สิ้นสุดลง แล้วทีมของพวกเขายังยืนหยัดอยู่ด้านบนของตาราง มิหนำซ้ำยังติดกลุ่มที่คั่วไปเล่นถ้วยใหญ่ของยุโรปในฤดูกาลหน้าอีกด้วย

และที่จะเป็นตลกร้ายกว่านั้นก็คือ หงส์แดงเปิดรังแอนฟิลด์ต้อนรับโบลตั้น ในฐานะทีมที่เป็นรองกว่า !!

เมื่อพิจารณาจาก Starting line-up ของหงส์แดงแล้ว จะพบว่า ไม่มีผู้เล่นศูนย์หน้าอาชีพอยู่เลย หงส์แดงใส่กองกลางเข้าไปห้าคน ทิ้งให้หลุยส์ การ์เซีย ยืนค้ำไว้ในแดนหน้าเพียงคนเดียว แม้ว่า Formation ของทั้งสองทีมจะเหมือนกัน (หลังสี่ กลางห้า หน้าหนึ่ง) แต่ความต่างอยู่ตรงที่ โบลตั้นใช้ Formation นี้มาตลอดฤดูกาล และมีผู้เล่นที่เล่นประจำตำแหน่งต่างๆลงครบครัน

หงส์แดงใช้ผู้เล่นในทีมสำรองหลายคน อาทิ บิสคาน เวลช์ เปเลกริโน่ และนูเนซ (รวมทั้ง เลอ ทัลเล็ก และชมิเซอร์ ที่ลงมาภายหลัง) เมื่อเห็นตัวผู้เล่นของหงส์แล้ว ยากที่แฟนพันธุ์แท้หงส์แดงทั้งหลายจะคาดหมายให้ทีมรักบุกถล่มทีมเยือนอย่างบ้าคลั่ง ตรงกันข้ามความคาดคะเนที่มีกลับเป็นการเล่นที่รัดกุม และฉกฉวยโอกาสทุกโอกาสที่หลุดรอดมา เพื่อผลอย่างน้อยที่สุด คือ ไม่แพ้ !

ผลการแข่งขันที่ออกมา อาจเรียกได้ว่าเป็น Ugly Win ของลิเวอร์พูล แต่เป็น Ugly Win ที่น่าภาคภูมิใจที่สุดนัดหนึ่ง เพราะ หนึ่ง ผู้เล่นทุกคนทุ่มเท ไล่บอล และช่วยเหลือกันอย่างเต็มที่ ต่างคนต่างรู้สภาพของทีมดี ทุกคนทราบดีว่า ด้วยทรัพยากรที่มีในสิบเอ็ดคนแรกนี้ เป้าหมายในครึ่งแรกคือ ต้องไม่เสียประตู (ซึ่งต้องขอบคุณ สตีฟ ฟินแนนที่ช่วยโขกบอลออกจากเส้นประตูถึงสองครั้ง) แล้วจากนั้นจึงค่อยเริ่มกดดันโบลตั้น เพื่อซิวประตูบ้าง

เห็นได้ชัดว่าหงส์แดงมีการทำการบ้านมาดีทีเดียว ในการรับมือกับลูกเซ็ทพีซของโบลตั้น แม้ว่าในช่วงแรก นายทวารดาวรุ่งอย่างสก็อต คาร์สัน จะออกลูกเหวอ บ้างก็ตาม ตรงกันข้ามกับโบลตั้น ที่กลับถูกอาวุธของตัวเองวกกลับมาทิ่มแทง จนต้องพ่ายไปในที่สุด

ลูกที่หงส์ได้ประตูนั้นเริ่มจากลูกเตะมุมทางด้านซ้าย ที่เจอราร์ด เล่นสั้นๆกับทราโอเร่ โดยจังหวะที่เจอราร์ดตามมารับบอลคืนจากทราโอเร่ นั้น มีเพียง โอโคชาเท่านั้นที่ขยับจากกรอบเขตโทษ เข้ามาบังทาง เจอราร์ดส่งบอลคืนให้ทราโอเร่ ซึ่งยิืนอยู่ใกล้เส้นหลัง ซึ่งไอ้ปื๊ดก็เปิดบอลได้ดี (Surely he didn't mean to do that, แบบใน FM) ลูกพุ่งไปตรงจุดนัดพบกับศรีษะของบิสคานอย่างเหมาะเหม็ง จังหวะการเล่นลูกเตะมุมสั้นนี้ หากกองหลังโบลตั้นขยับขึ้นเร็ว จะทำให้ทราโอเร่ยืนในตำแหน่งล้ำหน้าทันที หากรับลูกจากเจอราร์ดมาเล่นต่อ น่าแปลกใจที่ทีมสารพัดสูตรเซ็ทพีซ จะมาตายน้ำตื้นแบบนี้ สุดท้ายแล้วประสบการณ์ของเหล่านักเตะวัยทองทั้งหลายที่พาโบลตั้นมาได้ไกลขนาดนี้ กลับต้องยอมพ่ายต่อสังขารที่หน่วงรั้งพวกเขาจนพลาดการเช็คล้ำหน้าในลักษณะเช่นนั้น

หงส์แดงยังมีลุ้นอันดับสี่ต่อไป ขอบคุณสองนักเตะที่เกือบจะไร้ค่า ภายใต้การชุบเลี้ยงดูแลของเฮียโปน ทราโอเล่ assist บิสคาน scores ใครจะเชื่อว่าเรื่องแบบนี้ มันเกิดขึ้นได้ และประตูชัยนี้ อาจมีความหมายมากที่สุดสำหรับฤดูกาลนี้เลยก็ได้

ความเบิกบานของแฟนหงส์เพิ่มมากยิ่งขึ้น เมื่อพลิกไปดูผลการแข่งขันคู่แมนฯยูไนเต็ด กับแบล็คเบิร์น (แรงบันดาลใจอันดับสอง ที่ทำให้ผมเขียนไดอารี่ในนี้) แบล็คเบิร์นใช้โชคเกินโควต้าเพื่อขัดขวางมิให้ยูไนเต็ดทำสกอร์ได้ ทั้งเสา และคาน ต่างบอบช้ำถ้วนหน้า เพราะถูกรูนี่ย์ และคีน อันบอลเข้าใส่เต็มๆ น่าเป็นห่วงท่านเซอร์จริงๆ เพราะถ้าดูจากเม็ดเงินที่ท่านใช้ไปภายหลังการขายเบ็คแฮม แล้วเทียบกับความสำเร็จที่ได้รับนั้นแล้ว ใครเป็นบอร์ดคงไม่แฮบปี้ด้วยแน่ ยิ่งถ้าได้ที่สามสองปีติดกันแล้ว ผมว่าเก้าอี้ท่านคงร้อนสุดๆ

ขอปิดท้ายรายงานสุดสัปดาห์ด้วยเหตุการณ์สุดฉาวในถิ่นเซนต์เจมส์ ปาร์ค ทีมโปรดของท่านผู้นำฝ่ายค้าน พ่ายค่าถิ่นต่อทีมเยือนจากมิดแลนด์ แต่นั่นยังมิใช่เหตุการณ์ที่ถูกกล่าวขวัญถึงเมื่อจบเกม หากเป็นการแลกหมัดระหว่าง ลี โบวเยอร์กับคีรอน ดายเยอร์ ครับไอ้สองคนเนี่ย มันอยู่ทีมเดียวกัน ผมบังเอิญได้ดูไฮไลท์ เหตุการณ์นี้พอดี คือทีมน่ะตามอยู่สามลูก ถึงจะไม่ค่อยมีหวังก็เหอะ แต่พวกนายเป็นนักบอลอาชีพนี่นา จังหวะนั้นทีมกำลังลำเลียงบอลเข้าบุกด้วย กองหน้ากำลังต่อบอลเพื่อหาช่องเจาะกองหลังวิลล่า แต่พ่อเจ้าประคุณสองคนเนี่ยกลับมีปากเสียงกันแถวกลางสนาม โดยที่ขาประจำ โบวเยอร์เป็นฝ่ายเข้าทำก่อน ด้วยเอาหัว บึ๋ง เข้าที่ใบหน้าดายเยอร์ แล้วจากนั้นก็ สาวหมัดซ้ายขวาเข้าใส่อุตลุด ผลก็คือเจอใบแดงทั้งคู่ อับอายสิ้นดี ผู้ที่ติดตามบอลอังกฤษมาพอสมควรคงจำได้ว่า มีเหตุการณ์คล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นมาก่อนแล้ว คือเมื่อสิบปีที่แล้ว นักมวยรุ่นฟลายเวทสองราย ซึ่งสังกัดค่าย บ.โรเวอร์ แลกหมัดกันเองในเกมแชมเปี้ยน ลีก กับสปาตัก มอสโก นักมวยรายหนึ่งคือ แกรม เลอโซ อีกรายคือ เดวิด แบ็ทตี้ ซึ่งผลจากการชกครั้งนั้นทำให้ นักมวยทั้งสองต้องย้ายค่ายไปในที่สุด

และข่าวสุดท้ายปิดท้ายวันนี้ เอเวอร์ตั้นบุกไปพ่ายให้กับเวสต์ บรอม ศูนย์ประตูต่อหนึ่ง สุดสัปดาห์นี้จบลงพร้อมกับรอยยิ้มที่จะฉาบใบหน้าแฟนหงส์ทุกคน

จนกว่าจะถึง European Night กลางสัปดาห์นี้ ... Bye bye

0 Comments:

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home