Early Morning Blues
เขตบางกะปิ กทม 10240เวลา 5.14 A.M.
90 นาทีของเกมพรีเมียร์ชิพระหว่าง ลิเวอร์พูล กับแบล็คเบิร์น ได้ผ่านพ้นไป
สองทีมที่เริ่มต้นเกม ด้วยเป้าหมายที่แตกต่างกัน
ลิเวอร์พูลต้องการสามแต้มเพื่อแย่งชิงอันดับสี่จากทีมร่วมเมือง เอเวอร์ตัน (What an ambitious goal!)
แบล็คเบิร์นเดินเข้าสนามแอนฟิลด์เพื่อ Frustrate ทีมเจ้าบ้าน และหนึ่งแต้มนอกบ้าน
เกมจบลงตามที่แบล็คเบิร์ต้องการ Final Score nil-nil
เป็นอีกครั้งที่ลิเวอร์พูลสร้างความผิดหวังให้กับเหล่าสาวกทั่วโลก ซึ่งรวมถึงสมาชิก ยูบีซี ที่ต้องตื่นมาดูเกมที่น่าผิดหวังนี้ ทั้งๆที่มีภาระบริการครอบครัวในยามเช้า เมื่อเล่นเกมพรีเมียร์ชิพ หงส์แดงแสดงถึงศักยภาพที่ไม่ต่างไปจากกลุ่มทีมกลางตาราง อย่างชาร์ลตัน โบโร่ และโบลตั้น แม้ว่าในบอลถ้วยใหญ่ของยุโรป พวกเขาจะไปได้ไกลกว่าทีมหัวตารางอย่าง แมน ยูไนเต็ด หรือ อาเซน่อล
เชื่อหรือไม่ว่า แบรด ฟรีเดล ไม่ได้แสดงฝีมือป้องกันประตูแม้แต่น้อยเลย
เชื่อหรือไม่ว่า กองหน้าหงส์ ไม่มีโอกาสสับไก แม้แต่ครั้งเดียว
อันที่ shot on target ครั้งเดียวของหงส์แดง มาจากการยิงไกลของ Pelegrino (ที่เบาหวิวขนาด โกล์สำรองทีมปทุมคงคา ยังไม่มีปัญหาในการรับแม้แต่น้อย)
แบล็คเบิร์น เล่นเกมรัดกุม ทิ้ง John Stead ไว้ข้างหน้าเพียงคนเดียว นักเตะที่เหลือ คอยวิ่งไล่บอล และปิดทางลำเลียงของกองกลาง ไม่ให้ป้อนลูกให้กับสองกองหน้า ได้อย่างง่ายดาย หลายครั้งที่มิลาน บารอส ต้องฉีกตัวเองออกมารับบอลทางริมเส้น แต่ทุกครั้งที่เขาพลิกเข้ามาเพื่อจะเลี้ยงจี้เข้าหาเขตอันตราย จะมีผู้เล่นแบล็คเบิร์นสองรายเข้ามาประกบเสมอ
การยืนของผู้เล่นแบล็คเบิร์นจะซ้อนกันเหมือนกำแพงสองชั้น โดยชั้นแรก จะปิดกั้นการถ่ายบอลของพวกมิดฟิลด์ และชั้นที่สองจะปกป้อง แบรด ฟรีเดล โดยทั้งประกบติด สองกองหน้า และดักทางวิ่งทะลุช่องของกลางเชิงรุกอย่าง การ์เซีย และชมิเซอร์ หลายครั้งในครึ่งแรกที่ตัวเก็บบอลอย่าง ฮาร์มันต้องถ่ายบอลกลับไปข้างหลัง เพื่อเปลี่ยนแกน เพราะไม่อยากดันทุรังเจาะกำแพงสองชั้นของแบล็คเบิร์น
เกมในครึ่งแรกลิเวอร์พูลครองบอลได้มากกว่า แต่ไม่สามารถสร้างความกดดันใดๆให้กับผู้มาเยือนได้เลย ราฟาเอล เบนิเตซ แก้เกมโดยการส่ง ริเซ่ ลงมาทำเกมทางด้านซ้ายแทน ชมิเซอร์ ซึ่งการเปลี่ยนตัวนี้จุดประกายความหวังให้กับแฟนๆหงส์ในช่วงเริ่มต้นครึ่งหลัง แต่แล้วประกายความหวังนั้น ก็ไม่สามารถฉายแสงได้อย่างสว่างไสวดังที่คาด Still No Goal .... and.. No Shot on target
แฟนหงส์คงเริ่มตั้งข้อสงสัยในอัจฉริยภาพในการแก้เกมของเบนิเตซ เมื่อถอดบารอสออก แล้วใส่ นูเยซลงไปแทน ทั้งๆที่ดูแล้วบารอส อันตรายกว่าเอล มอโร่ ที่ยังได้รับความไว้วางใจให้ทำหน้าที่ในสนามต่อ ตัวผู้เล่นที่เปลี่ยนลงมาเล่นในตำแหน่งปีกขวา ดังนั้น การ์เซีย ซึ่งเริ่มเกมเล่นในตำแหน่งนี้จึงถูกโยกไปเป็นตัวฟรี (AMC ใน CM / FM) ในแดนหน้า Tactics เปลี่ยน ผลลัพท์ .. เหมือนเดิม
หมากสุดท้ายของราฟา ... ถอดแบ็คซ้าย (Warnock) แล้วใส่บิสคาน ลงไป โดยให้เล่นกลางคู่กับฮาร์มัน เพื่อเปิดโอกาสให้เจอร์ราดได้เล่นเกมรุกมากขึ้น ผลลัพท์ ... ไม่มีสกอร์เกิดขึ้น เหมือนเดิม
เมื่อเทียบกับมูรินโญ่ แล้วจะเห็นได้ว่า การเปลี่ยน ผู้เล่น หรือการเปลี่ยน Formation ของการเล่นนั้น ได้ผลตามที่ต้องการจริงๆ อาจมีเพียงในเอฟ เอ คัพเท่านั้น ที่มูรินโญ่ เปลี่ยนตัวแล้ว ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้
แฟนหงส์ที่ยังเดินเคียงข้างทีมรัก คงได้แต่หวังว่าฟ้าคงไม่ผ่าลงมากลางแอนฟิลด์ในวันอาทิตย์นี้ แต่คงต้องเผื่อใจไว้หน่อยนะครับ กลัองจับภาพไปที่แสตนด์ เป็นเดวิด มอยส์กับผู้ช่วยนั่งชมเกมอยู่ด้วย ฟันธงไว้ก่อนเลยครับ เอเวอร์ตั้นมาอุดแบบแบล็คเบิร์นแน่นอน
เผลอๆ อาจแบกสามแต้มข้ามฟากกลับบ้านไปด้วย
1 Comments:
ป่านนี้ ท่าน Corgiman คงได้รับการบรรเทาจิตใจได้บ้างแล้ว...
แต่ปัญหาใหญ่กลับเป็นตัวผู้เล่นตัวหลักที่เจ็บเป็นจำนวนมาก รวมทั้งโดนแบน...
...หรือว่าฟ้าดินบังคับให้ลิเวอร์พูลต้องแลก ระหว่าง 3 แต้มในวันอาทิตย์ กับชะตากรรมที่เหลือ...ทั้งหมด...
from Hugo
Post a Comment
Subscribe to Post Comments [Atom]
<< Home