The Corgiman's Journal

บนความแตกต่างระหว่างหงส์กับสิงห์

เมื่อเกมแชมเปี้ยนส์ลีกรอบรองชนะเลิศนัดแรกที่สนามแสตมฟอร์ด บริดจ์ ระหว่างเชลซี กับลิเวอร์พูลจบลงด้วยสกอร์ ศูนย์-ศูนย์ นักวิจารณ์หลายรายให้คำชมกับทีมหงส์แดงที่ไม่ได้แบกประตูกลับบ้านเหมือนผู้มาเยือนจากภาคพื้นยุโรปในรอบก่อนหน้านี้ หลายคนเชื่อว่าด้วยฟอร์มในบ้านของหงส์แดงที่เคยปราบทั้งยูเว่ และเลเวอร์คูเซ่นมาแล้วน่าจะมีโอกาสไม่น้อยที่จะผงาดเข้าชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก ในอิสตันบูล

โชเซ่ มูรินโญ่ หาได้แยแสกับการที่ทีมของตนที่ไม่สามารถทะลวงประตูทีมเยือนไม่ ตรงกันข้ามเขากลับให้สัมภาษณ์ด้วยความมั่นใจว่า อังคารนี้จะบุกไปพิชิตหงส์ถึงถิ่น คำกล่าวที่ทายทักผลการแข่งขันล่วงหน้านี้ จะเป็นจริงเหมือนดังเช่นที่เขาให้สัมภาษณ์ก่อนเกมนี้จะเริ่มขึ้นว่า เชลซีไม่จำเป็นต้องชนะในนัดแรก...มูรินโญ่พูดเหมือนรู้แล้วว่าผลจะลงเอยอย่างไร..

มูรินโญ่สามารถล่วงรู้ถึงผลการแข่งขันล่วงหน้า หรือว่ามีความสามารถที่จะทำให้ผลการแข่งขันเป็นไปดั่งใจ ..หรือเพียงแค่คุยโวกันเสียฟอร์ม

ใครจะคิดยังไง ผมไม่ทราบ แต่ผมเชื่อเฮียเครียด ว่าแกหมายความตามที่พูดจริงๆ...ไม่ใช่พูดแก้เกี้ยวที่เคี้ยวหงส์ไม่ลงคาถิ่น

ผมยังเห็นคล้อยตามเฮียแกด้วยว่า สกอร์ ศูนย์-ศูนย์ เป็นสกอร์ที่ดีสำหรับเชมซีในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก..

อาจฟังดูเหมือนคำแก้ตัว แต่ผมเห็นด้วยจริงๆ...

เหตุผลที่ผมคิดว่าแกพูดถูกก็คือ ..เงื่อนไขที่จะทำให้หงส์เข้ารอบได้มีเพียงสถานเดียว คือ ต้องชนะ ..เท่านั้น

แต่สำหรับเชลซี เงื่อนไขจะง่ายกว่า..นั่นคือ เพียงแค่ไม่แพ้ ก็เข้ารอบไปรอชิงแล้ว..

เชลซี ชนะ ก็เข้า..เสมอแบบมีสกอร์ ..ก็เข้า ..ถ้าเสมอแบบไม่มีสกอร์แบบนัดแรก ..ก็ดวลลูกโทษ

มีช้อยส์ ให้เลือกเยอะกว่า..หงส์แดงที่เป็นเจ้าบ้านเสียอีก

จริงอยู่ที่ทีมเจ้าบ้านมักได้เปรียบจากเสียงเชียร์ และกำลังใจจากแฟนๆ แต่นั่นพอเพียงหรือ สำหรับหงส์แดงที่จะโค่นเชลซีคาถิ่นแอนฟิลด์

เช้าวันเสาร์ ..

สตาร์ซอคเกอร์หน้าหนึ่งพาดหัวข่าวที่เดวิด มอยส์กลัวเชลซีจะเก็บตัวเก่งไว้สำหรับนัดกลางสัปดาห์ และส่งทีมอ่อนลงไปบู๊กับโบลตั้น

ซึ่งความพ่ายแพ้ของเชลซีอาจส่งผลเสียต่อเอเวอร์ตั้นที่กำลังลุ้นตำแหน่งที่สี่อยู่ได้ เพราะสามแต้มที่โบลตั้นได้เพิ่มขึ้นมา หมายถึงเกมนัดสุดท้ายที่ทั้งสองทีมมีคิวเตะกัน จะมีความหมายอย่างยิ่งยวดต่อการเข้าร่วมแข่งในแชมเปี้ยนส์ลีกฤดูกาลหน้าของทั้งสองทีม

เป็นใครก็คงคิดเหมือนเดวิด มอยส์..

เพราะตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ชิพแทบจะอยู่ในอุ้งมือของเชลซีเรียบร้อยแล้ว เพียงแค่อีกสองคะแนน เชลซีก็จะหนีห่างจากทีมอันดับสองอย่างอาร์เซน่อลโดยสัมบูรณ์ ดังนั้น หากมิได้คว้าแชมป์ที่ถิ่นรีบ็อค สเตเดี้ยมของโบลตั้น เชลซีก็อาจมีงานปาร์ตี้อันยิ่งใหญ่ในอาทิตย์ถัดไปได้ เมื่อพวกเขาเปิดรังรับทีมร่วมเมืองอย่างชาร์ลตั้น..

จะเร่งรีบเก็บคะแนนในลีกไปทำไม ในเมื่อมันแทบจะอยู่ในอ้อมอกอยู่แล้ว สู้เก็บตัวเก่งไว้ลุยกับหงส์ เพื่อประวัติศาสตร์สามแชมป์ในฤดูกาลเดียว ไม่ดีกว่าหรือ

ครับ ..ใครๆอาจคิดเช่นนั้น แต่ไม่ใช่มูรินโญ่

เฮียเครียดส่งทีมชุดเดียวกับที่เตะนัดกลางสัปดาห์กับหงส์เข้าสนามรีบ็อค เปลี่ยนเพียงเอายาโรซิคลงแทน โจ โคลเท่านั้น ซึ่งเหตุผลของการปรับหมากก็เข้าใจได้ไม่ยาก ..เพราะทีมออกเล่นในนัดเยือน จึงเน้นความรัดกุม เพิ่มมิดฟิลด์ตัวรับในแผงกลาง และตัดตัวรุกออกหนึ่ง ..แค่นั้นเอง

ผมเฝ้าดูเกมนี้ด้วยความมุ่งร้ายต่อสิงห์โตน้ำเงินคราม ชอบใจที่มูรินโญ่ไม่เก็บตัวจริง อยากเห็นตัวจริงของเชลซีกรอบก่อนแข่งกับหงส์ ..ทำไมหรือครับ ..อิจฉาน่ะสิ

หงส์ของผมในฤดูกาลนี้มีแต่นักเตะเจ็บ พวกตัวสำคัญทั้งนั้น แต่ทางฟากเชลซีล่ะ เทอรี่ แลมพาร์ด เช็ก ไม่เคยพลาดการลงสนามเลย ทำไม..ทำไม มันถึงรักษาเนื้อรักษาตัวกันดีจัง

ถ้าตัวเก่งมันไม่ได้ลงบ้าง หงส์ของผมคงมีหวังมากขึ้น ยิ่งหงส์ต้องขาดอลองโซ่ในนัดที่สองนี้ด้วย โอกาสจะชนะเชลซียิ่งน้อยลงไปใหญ่ ความหวังอันหนึ่งของผมคือ ขอให้เชลซี ขาดกำลังสำคัญบ้างละกัน ในวันอังคารนี้

เกมระหว่างโบลตั้นกับเชลซี เป็นไปตามประสงค์ร้ายๆของผม นักเตะโบลตั้นเข้าบอลหนัก โจมตีเชลซีด้วยลูกกลางอากาศ ทำให้ต้องมีการปะทะกันบ่อย และก็เป็นจอห์น เทอร์รี่ ที่โดนศอกของ เควิน เดวี่ส์ เข้าไปในจังหวะที่พุ่งเข้าโหม่งสกัดลูกบอมบ์ทางอากาศของโบลตั้น

เทอร์รี่ได้รับการปฐมพยาบาลอยู่นาน และระหว่างพักครึ่ง ผู้วิจารณ์เกมทางโทรทัศน์ต่างตั้งข้อสงสัยว่า จะกลับมาเล่นได้อีกหรือไม่ เพราะหากได้รับความกระทบกระเทือนทางสมอง ผู้เล่นไม่เพียงจะต้องได้รับการพยาบาลดูแลจากแพทย์ และไม่สมควรลงสนามต่อในครึ่งหลังเท่านั้น แต่ตามกฎของฟุตบอลลีก ผู้เล่นจะต้องงดลงสนามอย่างน้อยสิบวันหรือสองอาทิตย์ นั่นหมายความว่าทั้งนัดกลางสัปดาห์กับลิเวอร์พูล และนัดสุดสัปดาห์หน้ากับชาร์ลตั้น เทอร์รี่จะไม่สามารถลงสนามช่วยทีมได้

ผมนึกกระหยิ่มในใจ ..สม.. เฮียเครียด อยากส่งตัวจริงมาบดกับโบลตั้น..เป็นงัย

แต่ทันใดนั้นเองผมฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า

ทำไม..ทำไม เฮียเครียดแกถึงลงทุนกับเกมนี้ขนาดนี้นะ..มันจำเป็นนักหรือ..

ผมคิดขึ้นมาได้ว่า ..ถ้าเชลซีชนะในนัดนี้แล้ว..นัดคืนวันอังคารนักเตะเชลซีจะลงสนามด้วยสภาพจิตใจที่ฮึกเหิมสุดๆแน่

เพราะในคืนนั้น พวกเขาจะลงสนามในฐานะแชมป์ทีมใหม่ของลีกอังกฤษ ..เกียรติยศที่นักเตะหงส์รุ่นนี้ยังไม่เคยสัมผัส

ในทางกลับกัน หากเชลซีเสียท่าให้กับโบลตั้น และต้องเลื่อนการฉลองชัยไปสัปดาห์หน้า งานฉลองนั้นอาจกร่อยลงก็ได้ หากเชลซีพลาดท่าให้กับหงส์ อดเข้าชิงถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีก

พิจารณากันให้ดีแล้ว ผลได้จากการเข่นโบลตั้นคารังมีมากกว่าผลเสียแน่นอน เฮียเครียดถึงได้ยอมทุ่มเต็มที่สำหรับเกมนี้

ชัยชนะในถิ่นรีบ็อคย่อมสร้างความหรรษา และความคึำคักแก่เหล่านักเตะเชลซีอย่างมากมาย มิเพียงเท่านั้นมันยังเป็นการเติมเชื้อไฟให้กับนักเตะเหล่านี้ที่เพิ่งเคยสัมผัสเกียรติยศสูงสุดในประเทศเป็นครั้งแรก มันได้จุดชนวนความกระหายในชัยชนะและเกียรติยศต่อๆไปให้กับพวกเขา

ในเมื่อชัยชนะในถิ่นรีบ็อคมันสุขสมปานนี้ ชัยชนะนัดต่อไปที่แอนฟิลด์มันจะยิ่งสุขกว่า และต่อไปที่....

มูรินโญ่เข้าใจถึงเรื่องนี้ดี เขาไม่เพียงฉลาดในเรื่องกลเกมในสนามเท่านั้น เรื่องจิตวิทยานั้นเขาก็ไม่เป็นรองใคร

เขาเคยให้สัมภาษณ์เรื่องอีโก้ที่เบ่งบานมากขึ้นภายหลังมาคุมทีมในพรีเมียร์ชิพ เขาเคยถามนักข่าว นักเตะต่างสโมสร และผู้จัดการทีมที่วิจารณ์ตัวเขาว่า "มึงเคยเป็นแชมป์ยุโรปอย่างผมรึเปล่า"

เขาคุย เขาทำ และทำได้ตามที่เขาคุย และถ้าหากคุณคิดว่าที่เขาแสดงออกมาแค่นี้มันทำให้คุณหมั่นใส้เขามากพอแล้ว คิดเสียใหม่

เตรียมรอฟังคำถาม "มึงเคยเป็นแชมป์ยุโรปสองสมัยแบบผมรึเปล่าครับ มีผู้จัดการทีมคนไหนในยุโรปตอนนี้ทำได้แบบผมอะป่าว"

ผมร่ายมายาวเหยียดเต็มไปด้วยเรื่องของเชลซี แล้วแฟนพันธุ์แท้หงส์แดงอย่างผมเนี่ยไม่คิดเลยหรือว่าหงส์จะผ่านเชลซีได้..

ก็ดูราฟาจัดตัวนักเตะ ก็แล้วกันครับ อาทิตย์ที่แล้วก็ทีนึง อาทิตย์นี้อีก

เก็บตัวเก่งไว้เตะกลางสัปดาห์ ตรงกันข้ามกับที่เชลซีทำ

ผลการแข่งขันก็ตรงกันข้าม..

แล้วจะให้ผมพูดอะไรอีกล่ะครับ ซิวตำแหน่งที่สี่จากเอเวอร์ตั้นง่ายกว่าอ่ะ

ป.ล. แต่สัญญาที่ผมให้ไว้กับสหายร่วมสำนักท่าพระจันทร์ ที่ว่า หากหงส์แดงได้แชมป์ จะเปิดเม็มให้ ในสถานที่ที่ท่านเลือก ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่นะครับ

posted by The Corgiman @ 10:12 PM