Thursday, May 19, 2005

โหมโรง ผีปืนชิงถ้วยมิคกี้เมาส์

ล้อมวงเข้ามา คนแก่จะเล่าเรื่องความหลังให้ฟัง...

สมัยก่อนโน้นนนนนน...ยุคที่ยังไม่มีเคเบิ้ล สมัยที่ฟุตบอลถ่ายทอดสดมีกันปีละไม่กี่คู่

โอเอซิสของคอบอลอังกฤษสมัยนั้นมีเพียงนัดชิง เอฟเอ คัพเท่านั้น เพราะเป็นฟุตบอลอังกฤษนัดเดียวที่มีการถ่ายทอดสดให้ดูกันประจำทุกปี

ผมจำได้ว่าเอฟเอคัพนัดชิงที่ผมได้ดูครั้งแรก ก็คือนัดปืน เตะกับผี นี่แหละครับ ครานั้นเตะกันเมื่อปี 1979 ได้

เดาออกมั้ยครับ ว่าผมจะเชียร์ใคร...

ปีนั้น ผีแดงดับหงส์(ชุดอมตะมหานิรันด์กาล ที่ทำสถิติสารพัดในดิวิชั่น 1 เดิม)ในรอบตัดเชือก หลังจากต้องเตะกันถึงสองนัด คิดดูสิว่า ไม่ให้ผมผูกใจเจ็บไอ้ทีมผีทะเลนี่ได้งัย ทั้งปีผมได้แต่ตามอ่านสตาร์ซ็อคเกอร์ทุกวันจันทร์ แล้วคอยนึกภาพตาม ถึงลีลานักเตะในยุคนั้น อยากดูหงส์เตะนัดชิงเอฟเอคัพใจจะขาด แต่ก็มี มาร..มารจริงๆครับ ช่วงล่างเป็นแพะ ปลายหางเป็นลูกศร ถือสามง่ามยืนยิ้มเยาะ

ผีแดงจัดการฆ่าตัดตอนไม่ให้แฟนหงส์ชาวไทยได้มีโอกาสชมทีมรักทางทีวี การฆ่าสัตว์เป็นบาป แมนฯยูไนเต็ดจึงต้องชดใช้กรรม ถูกปืนใหญ่ยิงดับคาเวมบลีย์

ปืนใหญ่ยุคนั้นมีจอมทัพซ้ายเทวดาชื่อ เลียม เบรดี้ ใครไม่เคยดูแกเล่น ขอให้นึกเปรียบกับเบิร์กแคมป์ยุคนี้ละกัน จ่ายบอล เปิดบอลแบบเดียวกัน แถมเบรดี้ยังมีลูกยิงไกลให้ดูอีกด้วย ศูนย์หน้าปืนชุดนั้นคือ อลัน ซันเดอร์แลนด์ กับแฟรงค์ สเตเปิลตั้น คนหลังนี้ตอนหลังย้ายมาอยู่กับแมนฯ ยูไนเต็ด ผู้รักษาประตูของอาร์เซน่อลในชุดนั้น ชื่อ แพท เจนนิ่งค์ สตาร์ซ้อคเก้อร์สมัยนั้นมักเรียกเขาว่า นายทวารรูปหล่อ ดูจากทรงผมและใบหน้าแกแล้ว ผมว่าแกน่าจะไปเล่นหนังพวก โรบินฮู้ด หรือ BlackAdder มากกว่า คือเหมาะกับยุคกลางครับ แต่ฝีมือแกเข้าขั้นเหนียวหนึบเลยนะครับ ตบมาจากสเปอร์ แสบจริงๆ

(จะว่าไป ยุคนั้นคือยุคทองของประตูชาวอังกฤษจริงๆ เพราะในลีกดิวิชั่น 1 มีโกล์ระดับโลกที่ถือพาสปอร์ตอังกฤษอีกสองคน คือ เรย์ เคลเมนซ์ ของหงส์แดง และปีเตอร์ ชิลตั้น ของฟอร์เรสต์)

ส่วนทางแมนฯ ยูไนเต็ดนั้น มีศูนย์หน้าฟันหลอชาวสก็อต ชื่อ โจ จอร์แดน ยิ้มทีเหมือนผีหลอก แต่อีเล่นลูกกลางอากาศเก่งมาก คนนี้ไปซื้อมาจากลีดส์ ยูไนเต็ด จอร์แดนจะเล่นคู่กับ จิมมี่ กรีนฮอร์ฟ คนนี้แหละ ชอบยิงหงส์ ยิงดับหงส์ทั้งในนัดชิงเมื่อปี 77 แล้วยังมาสอยหงส์อีกครั้งตอนรอบตัดเชือกปี 79 ในทีมแมนฯยูไนเต็ดยุคนั้นมี กรีนฮอร์ฟอีกคนนึง เป็นน้องของไอ้จิมมี่ ชื่อไบรอัน คนน้องนี้ประเภทนักเตะสารพัดตำแหน่ง เล่นกลางกับหลังได้ จุดเด่นของแมนฯยูไนเต็ดในยุคนั้นคือ เกมริมเส้นสองข้าง ปีกขวาคือ สตีพ คอปเปลล์ (ที่ชอบคุมคริสตัล พาเลซอ่ะ) ดีกรีทีมชาติดังกฤษ ส่วนปีกซ้าย รู้สึกจะเป็น ไมค์ โธมัส ปีกทีมชาติเวลส์

อ่านถึงบรรทัดนี้แล้ว เด็กๆคงรู้สึกว่ามันคุ้นๆแฮะ ทำไมอดีตกับปัจจุบันมันมีอะไรคล้ายๆกัน ลุงแต่งเรื่องเองป่ะ...

อ้อ ยังมีอีก ผีแดงลงสนามเวมบลีย์ในนัดนั้นโดยมีนายทวารรุ่นกระทงเฝ้าเสา เขาชื่อ แกรี่ เบลี่ย์ ยังละอ่อนอยู่เลย เกมนี้เป็นเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาเลยมั้ง และก็เป็นเขาที่ช่วยให้อาร์เซน่อลขึ้นนำอย่างรวดเร็วถึง สองประตู

ผมจำได้ว่า แกออกลูกเฟอะฟะ แล้วก็กลายเป็นประตู หน้าตาดูตื่นตระหนกไม่แพ้ แซนเดอร์ เวสเตอร์เฟลด์ เลย

ฝีแดงทำงานหนักตึั้งแต่ต้นเกม บางคนอาจชื่นชมในความขยัน และใจสู้ของนักเตะผีแดง แต่ผมสะใจว่ะ แกมสมน้ำหน้าด้วย..

ผมนั่งดูอย่างสบายอารมณ์ เหมือนดูหนูวิ่งไล่จับแมว ปืนเหนือกว่าเยอะ ผีแดงไม่มีวี่แววจะเจาะทวารปืนได้เลย..

แต่แล้วในครึ่งหลัง เหตุการณ์กลับพลิกผัน..

แมนฯยู ยิงตีไข่แตกได้ เท่านั้นไม่พอ แซมมี่ แม็คอิลรอยโชว์สเต็ปเท้า หลบกองหลังปืนที่รายล้อม ยิงลูกฟลุ็คๆ เข้าไป เป็นลูกที่สอง

เสมอกันแล้วครับ ..

เซ็งล่ะสิ เจอเม็ดนี้เข้าไป...แม่ง....ความเกลียดผียิ่งทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น

ทันใดนั้นเอง เมื่ออาร์เซน่อลเอาลูกมาเขี่ยเริ่มเล่นใหม่

เบรดี้ จ่ายบอลออกปีกอย่างเหนือชั้น เกรแฮม ริกซ์ (อดีตสตาฟโค้ช เชลซี ที่เจอคดีฟันเด็กอ่ะ) โยนบอลมาทางเสาสอง..

เบลี่ย์ออกมาตัดบอลพลาด..ซันเดอร์แลนด์ยิงลูกนั้นเข้าไป ...GOALLLLLLL

5555555

สะใจจริงๆ ต้องแบบนี้สิ ถึงจะสาสมกับที่เขี่ยหงส์ตกรอบตัดเชือก

ปืนชนะ 3-2 จากลูกนี้ อูยยยย....สบายใจจัง เป็นงี้ทุกครั้งที่เห็นแมนฯยูแพ้ หรือตกรอบ


แต่ ...ช้าก่อน..อย่าเพิ่งด่วนสรุปว่าผมมีอาร์เซน่อลเป็นกิ๊ก

ผมพอจะมีใจให้กับทีมยี่ห้อคุ็กกี้นี้บ้างเป็นบางครั้งบางคราว แต่ไม่มีทาง ไม่มีทางที่ผมจะเป็นมิตรถาวรกับทีมนี้ได้

ทำไมเหรอครับ ...สามข้อ

หนึ่ง ในฤดูกาลต่อมา(ถ้าจำไม่ผิด) หงส์แดงตัดเชือกกับปืนในถ้วยใบนี้ เชื่อว่าประวัติศาสตร์คงบันทึกไว้ว่า เป็นการแข่งขันที่มีการเตะใหม่ (replay) มากครั้งที่สุด เสมอ 0-0 1-1 1-1 จนในที่สุดหงส์โดนยิงร่วง ผมก็เจ็บใจสิครับ ไม่เชียร์มันนัดชิงหรอก พวกปืนคงยิ้ม เพราะปีนั้นเข้าชิงกับ เวสต์แฮมที่ปักหลักอยู่ดิวิชั่นสองเดิม เหอะๆๆๆ กรรมมีจริงน้อง ปืนกระบอกแตกเจอเวสต์แฮมตึ้บ ไปหนึ่งศูนย์ ...สม

สอง นัดชิงลีกคัพ ปีเท่าไหร่ก็ไม่รู้ เอียน รัช ผู้มีสถิติในตอนนั้นคือ นัดไหนยิง นัดนั้นหงส์ไม่แพ้ ยิงประตูเบิกร่องได้ ผมนั่งยิ้มเลย นัดนี้ไม่แพ้แน่ ..ไหงได้ แม่งมาเสียสถิติเอานัดนี้เอง เจอปืนยิงแซงสองลูก (โดย ชาลี นิโคลัส คนเดียว) เสร็จเลย (แถมลูกสองที่เสีย เฮงซวยด้วย พวกตราโอเร่ คาราเกอร์เห็นคงบอกรุ่นพี่กล้าๆจริงๆ)

สาม นัดสุดท้ายฤดูกาล1988-89 มั้ง ที่หงส์เล่นในบ้าน แล้วปืนมาเยือน หงส์นำปืนอยู่สามแต้มได้ แถมมีประตูได้เสียดีกว่านิดนึง สถานการณ์เป็นแบบนี้ครับ หงส์แดงจะเป็นแชมป์ถ้าหาก

ก. ชนะปืน
ข.เสมอ
ค.แพ้ แค่หนึ่งลูก

หงส์มีสามช้อยส์ ให้เลือก ถ้าทำได้ ดับเบิ้ลแชมป์ทันที เพราะมีถ้วยเอฟเอคัพในอ้อมกอดแล้ว (ปีนั้นมีเหตุการณ์ฮิลส์โบโร่ ทำให้หลังเหตุการณ์นั้น หงส์ไม่ได้ลงเตะในฟุตบอลลีก การแข่งขันจึงเลื่อนมาทำให้นัดสุดท้ายเตะหลังนัดชิงเอฟเอคัพ)

มันดันเลือกช้อยส์ที่สี่ แพ้สองศูนย์ แถมโดนยิงลูกที่สองในวินาทีสุดท้าย

แค่สามข้อก็พอแล้วครับ ที่ทำให้ไม่ชอบขี้หน้าปืนเหมือนกัน..

แต่สามสี่ปีที่ผ่านมาก็ได้ปืนนี่หละครับ ที่ช่วยหยุดยั้งผีแดงไม่ให้กวาดรางวัลเกินหน้าเกินตายักษ์หลับอย่างหงส์แดง

คืนวันเสาร์ผมคงอยู่ข้างปืนเหมือนที่เป็นมาช่วงหลังๆ ก็ขอฟันธงเลยนะครับ อาร์เซน่อล 2 แมนฯยูไนเต็ด 0

6 Comments:

At 9:17 PM , Blogger ratioscripta said...

คืนวันเสาร์นี้ผมขอเป็นกิ๊กกะปืนวันนึงเหมือนกัน

ไม่มีส่วนได้เสีย

แต่ขอดู

โหมโรงก่อนวันที่ 25 เหมือนกันครับ

ไม่รู้ว่าอาจารย์จะเขียนโหมโรงก่อน 25 หรือเปล่า

จะมาเวียนรออ่านครับ

 
At 10:13 PM , Blogger Etat de droit said...

เสาร์นี้ผมก็เชียร์ปืนด้วยคน

ลูกของไมเคิล โธมัสที่ดับหงส์วินาทีสุดท้ายยังคงช็อคตรึงตาตรึงใจผมทุกวันนี้

เป็นเหตุการณ์เศร้าในเกมฟุตบอลของผม อีกอันคือผีไล่บาเยิร์นชนะไป 2-1 ใน UCL (เซ็งเพราะวางบาเยิร์นไว้เยอะ ถ้าเสมอผมยังไม่เสียนะ แต่ดันแพ้เฉย พี่แกสองลูกในสองนาทีช่วงทดเจ็บ)

เชียร์ปืนไม่ใช่ไรหรอกครับ เพราะมีเบิร์กแค้มป์

ผมดูบอลใหม่ๆนี่แมน ยู นี่เวียนว่ายแถวๆกลางตาราง บางปีหล่นไปโซนตกชั้นด้วยซ้ำ มีแต่ปืนนี่แหละ มาบี้กะหงส์ประจำ

นักเตะปืนรุ่นแรกๆที่ผมรู้จักก็มี ประตู จอห์น ลูคิช แล้วก็แบ็กโฟร์ในตำนาน แต่สมัยก่อน โอเลียรี่ยังคู่กะอดัมส์ มิดฟิลด์นี่ก็นิลกาฬทั้งนั้น เดวิด โรคาสเซิล, พอล เดวิส, ไมเคิล โธมัส มีปีกตัวจี๊ด คือ ไบรอัน มาร์วู้ด หลังๆมีเจ้าหลอ พอล เมอร์สันมาแทน

กองหน้าปืนรุ่นแรกๆที่ติดตา คือ ชาร์ลี นิโคลัส ผมว่าแกเท่ดี คู่กะมาร์ติน เฮยส์ หลังๆก็มีอลัน สมิธ มีไนออล ควินน์

จนกระทั่งปืนซื้อเอียน ไรท์มาจากพาเลซ

เล่นบอลได้น่าเบื่อมากครับ ปืนยุคก่อน เรียกว่าคนละเรื่องกับปืนยุคป้าเวนเกอร์เลย

อาจารย์ Corgiman เขียนเรื่องบอลบ่อยๆก้ดีเหมือนกันครับ ได้รำลึกความหลังดี จะได้ระลึกเสมอว่าผมแก่แล้ว

 
At 10:33 PM , Blogger The Corgiman said...

ยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้สหายร่วมอุดมการณ์เพิ่มมาอีกสองท่าน

เชื่อว่าในยุค ราฟา เราคงได้มีโอกาสเชียร์หงส์ด้วยกันซักครั้ง...

 
At 3:54 PM , Anonymous Anonymous said...

แหมท่านcorgiman
ฟันธงมาถูกใจอย่างงี้
ผมเชียร์หงส์ในวันที่ 25 ขาดใจแน่นอน
เพื่อเพื่อน เพื่อฝัน และเพื่อเมม (อย่าลืมนะครับท่าน ผมได้อัดคำพูดของท่านเตรียมไว้ฟ้องศาลหากท่านเบี้ยว)

 
At 12:37 AM , Blogger pin poramet said...

ผมได้อัดคำพูดเชียหงส์เพื่อเมมของคุณกระต่ายน้อยไว้ฟ้องน้องคนนั้นแล้วเช่นกัน

 
At 12:49 AM , Blogger ratioscripta said...

ยินดีกับปืน แชมป์เอฟเอคัพเที่ยวล่าสุด

จะว่าไปมากะดวงเหมือนกันนะครับ โดยเฉพาะเลห์มันน์ หนึบจริงๆวันนี้

สองทีมเล่นได้ตามแผน ไม่มีใครพลาด และไม่มีใครคมพอ แม้ว่าในความคิดผมผีจะเหลื่อมๆกว่าหน่อยก็ตาม โดยเฉพาะจังหวะส่งบอลไปตุงแต่ล้ำหน้าของปากเป็ด และการโหม่งสกัดจากเส้นตามสัญชาติญาณของลุงเบิร์ก ยังไม่นับลูกชนเสา และการเซฟสวยๆของเลห์มันน์

แถมทั้งห้าของปืนใหญ่ ยิงลูกโทษได้อย่างไร้ที่ติ

ผมยังรู้สึกว่าพี่ประตูเยอรมันคนนี้ น่าจะได้แมนออฟเดอะแมตซ์มากกว่าหมูพลิ้วซะอีก

วันนี้ไม่พลาดเลย แถมยังออกมาช่วยตัดเกมส์ และเปิดบอลยาวโต้กลับสวยๆแม่นๆ หลายช็อต

ยินดีกับแฟนปืน และเสียใจ...กับแฟนผีครับ คืนนี้ อย่างคนไม่มีส่วนได้เสีย

 

Post a Comment

Subscribe to Post Comments [Atom]

<< Home